ซีพีเอฟ หนุนนักวิจัยรุ่นใหม่ พัฒนานวัตกรรมอาหาร รองรับเทรนด์อาหารในอนาคต 

ซีพีเอฟ หนุนนักวิจัยรุ่นใหม่ พัฒนานวัตกรรมอาหาร รองรับเทรนด์อาหารในอนาคต 

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  ถ่ายทอดประสบการณ์ด้านอาหาร  หนุนนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันนวัตกรรมอาหารจากพืช ระดับภูมิภาคอาเซียนปี 2564 (Asean Food Innovation Challenge 2021) สนับสนุนนักวิจัยรุ่นใหม่ พัฒนานวัตอาหารเพื่อสุขภาพรับเทรนด์อาหารในอนาคต  

ซีพีเอฟ จับมือ ProVeg Asia ร่วมสนับสนุนและให้คำปรึกษา (Coaching) แก่นักวิจัยรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนานวัตกรรมอาหารในอนาคต 2 ทีม คือ ทีม Food Tech Chula จากแนวคิดนวัตกรรมอาหาร “The Marble Booster” ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ และทีม TempMie จากประเทศอินโดนีเซีย ได้อันดับที่ 2 นำเสนอแนวคิด “Asean Fusion yet Functional Food”   ภายใต้เป้าหมายที่ซีพีเอฟกำหนด คือ การพัฒนานวัตกรรมอาหารที่มาจากพืช “Plant-based Innovation” มีผลงานทีส่งเข้าร่วมแข่งขัน  125 ชิ้น จากมหาวิทยาลัย 54 แห่ง ใน 13 ประเทศ 

          ดร.ลลนา ธีระนุสรณ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านนวัตกรรมอาหารและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ทั้งสองทีมมีความมุ่งมั่นสูงและรับฟังคำแนะนำจากทีมเมนเตอร์เป็นอย่างดี สามารถนำคำแนะนำที่ได้รับไปต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว และประยุกต์ใช้ได้เหมาะสมเพื่อการผลิตผลงานได้จริงในอนาคต  ในส่วนของทีม Food Tech Chula  ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ  เป็นทีมที่มีการประสานความเชี่ยวชาญของแต่ละคนได้อย่างลงตัว นำเสนอแนวคิดนวัตกรรมเนื้อเทียม The Marble Booster ได้อย่างสร้างสรรค์ และมีคุณสมบัติพิเศษในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย  ส่วนทีม TempMie จากประเทศอินโดนีเซีย ได้อันดับที่ 2 นำเสนอแนวคิดนวัตกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพสำหรับ vegan (instant vegan noodle) ที่ทำจากแป้งถั่วเหลืองหมักแบบพื้นเมืองอินโดนีเซีย (Tempeh powder) สารสกัดเข้มข้นจากดอกไม้ Kecombrang และน้ำซุปเห็ดหอมชิตาเกะของญี่ปุ่น (Shiitake Broth) เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมของอินโดนีเซียเข้ากับญี่ปุ่น

          “ทุกคน กล้าคิด กล้าพูด กล้าลงมือทำและพร้อมค้นหาความจริง ซึ่งเป็นคุณลักษณะของนักวิจัยรุ่นใหม่ นอกจากแนวคิดของนักวิจัยกลุ่มนี้จะตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเรื่องโปรตีนเนื้อสัตว์จากพืชแล้ว ยังเป็นนวัตกรรมอาหารสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19” ดร.ลลนา กล่าว

          สำหรับทีมชนะเลิศอันดับที่ 1 Food Tech Chula  เป็นการรวมตัวกันของนิสิตปริญญาเอก คือ นายนุติ หุตะสิงห และ นางสาววรัญญา เตชะสุข และนิสิตปริญญาโท คือ นายณัฐชนน สร้างสมจิตร์  จากภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          นายนุติ กล่าวว่า The Marble Booster เป็นการนำเสนอแนวคิดการผลิตเนื้อเทียม (Meat Analogue) จากพืช 100%  มีลักษณะโครงสร้างเป็นใยคล้ายกล้ามเนื้อสัตว์ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นรูปจากโปรตีนถั่วเหลือง และมีชั้นไขมันที่ผลิตจากน้ำมันคาโนลา สารสกัดจากขมิ้นชันและพริกไทดำแทรกอยู่ในชิ้นเนื้อ กลายเป็นเนื้อลายหินอ่อน เป็นการเลียนแบบเนื้อวากิว ที่สำคัญช่วยเสริมภูมิคุ้มกันจากสารประกอบเคอร์คิวมิน (Curcumin) จากขมิ้นชัน และพิเพอรีน  (Piperine) จากพริกไทดำ สารทั้งสองตัวนี้เมื่อยู่รวมกันจะให้ฤทธิ์เสริมกัน (Synergistic effect) ในการเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งยังไม่มีบริษัทผู้ผลิตอาหารในโลกนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับผลิตอาหารจริง .

          —————————————————————————-

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *