NTT Ltd. ขยายความร่วมมือ Palo Alto Networks พร้อมเผยยุทธ์ศาสตร์การออกแบบโซลูชั่นความปลอดภัยขั้นสูง “Secure by Design”
ความร่วมมือระหว่าง NTT Ltd. และ Palo Alto Networks จะช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามความท้าทายในการดูแลความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน และรักษาความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมไอทีที่ซับซ้อนในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซานฟรานซิสโก : NTT Ltd., ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก และ Palo Alto Networks ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก ประกาศการขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าลดความเสี่ยง ลดเวลาในการคาดการณ์ และการตรวจจับ รวมถึงตอบสนองการโจมตีจากภัยไซเบอร์ โดยความร่วมมือกันครั้งนี้จะเป็นการผสมผสานการให้บริการในรูปแบบ ‘Secure by Design’ ของ NTT Ltd. เข้ากับเทคโนโลยี Prisma™ Access ของ Palo Alto Networks และเทคโนโลยีของ Cortex ™ XSOAR โดยมุ่งเน้นรูปแบบการทำงานแบบ Intelligent Workplace และความปลอดภัยไซเบอร์อัจฉริยะ หรือ Intelligent Cybersecurity ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้จะสามารถทำงานร่วมกันบนพื้นที่การทำงานดิจิทัลที่มีอยู่เดิม เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยและระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ
หลักการทำงานของ ‘ Secure by Design ‘ คือ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในทุกระดับขององค์กรธุรกิจ รวมถึงการสร้างความปลอดภัยให้กับโซลูชั่น ทั้งในด้านการตรวจสอบการปฏิบัติงาน ความปลอดภัยของแอพพลิเคชั่น ตรวจสอบช่องโหว่การเข้าโจมตี การตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และบริการแจ้งเตือนต่อการสุ่มเสี่ยงจากการโจมตี โดยจะถูกส่งมอบภายใต้การให้บริการที่ยอดเยี่ยมจาก NTT Ltd. พร้อมด้วยเทคโนโลยี Prisma Access ของ Palo Alto Networks และเทคโนโลยี Cortex XSOAR โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกว่า 2,000 ราย จาก NTT Ltd. ที่จะส่งมอบข้อเสนอในฐานะผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัย โดยสามารถให้บริการลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นพร้อมด้วยบริการเสริม ซึ่งเป็นความสามารถที่สำคัญอย่างยิ่งเมื่อฮาร์ดแวร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานถูกขับเคลื่อนโดยซอฟต์แวร์และการทำงานบนโปรแกรม
Matt Gyde ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ NTT Ltd. กล่าวว่า การขยายความร่วมมือดังกล่าวที่เราได้ร่วมเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนานระหว่าง NTT Ltd. กับ Palo Alto Networks จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับลูกค้าของเรา เพื่อร่วมกันนำเสนอโซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบและครบวงจรออกสู่ตลาด อีกทั้งเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาและส่งมอบการให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยด้วยการออกแบบหรือ Secure by Design ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจมีความสามารถที่ไม่เหมือนใคร และนอกเหนือจากการควบคุมความปลอดภัยขั้นพื้นฐานแล้ว เราพร้อมที่จะร่วมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับทีมงานของ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์ค เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยด้านไอทีที่ซับซ้อนในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
และจากข้อมูลของ Dominic Trott ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IDC ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในยุโรป ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว และได้มีการล้มเลิกแนวคิดในเรื่องของ “ขอบเขตความปลอดภัย” ส่งผลให้องค์กรต้องหันมาให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นปัญหาทางธุรกิจ มากกว่าจะเป็นแค่ปัญหาทางเทคนิค ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้หมายความว่าทุกองค์กรควรยอมรับในหลักการของ ‘Secure by Design’ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความสำเร็จในเรื่องของความน่าเชื่อถือทางด้านดิจิทัล (Digital Trust) และกลยุทธ์ด้านการทำงานในอนาคต (Future of Work)
ในขณะเดียวกันความซับซ้อนของสภาพแวดล้อมในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยยังคงเป็นปัญหาที่ยุ่งยาก ซึ่งจากการวิจัยของ IDC แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เป็นตัวชุดรั้งในอันดับต้นๆ ที่ไม่ให้ทีมรักษาความปลอดภัยในยุโรปได้พัฒนาศักยภาพของพวกเขา คือการขาดความพร้อมในการใช้งานเทคโนโลยีเนื่องจากเสียเวลาไปกับการบำรุงรักษาเครื่องมือด้านความปลอดภัยเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น การร่วมมือกันระหว่าง NTT Ltd. และ Palo Alto Networks ถือได้ว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว โดยในด้านหนึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนในเรื่องของความปลอดภัยโดยการออกแบบบนพื้นที่ทำงานดิจิทัล และในทางกลับกันถือเป็นการช่วยลดความซับซ้อนผ่านสถาปัตยกรรมโซลูชั่นแบบครบวงจร ที่ได้รวมเอาความสามารถในการให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งนี้ NTT Ltd. และ Palo Alto Networks ร่วมมือกันมาอย่างยาวนานในการปรับใช้โซลูชั่นรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ให้กับลูกค้า และสำหรับการนำเสนอบริการรูปแบบใหม่นี้จะมุ่งเน้นในเรื่องของ Secure by Design โดยแบ่งการให้บริการหลักๆได้ 3 รูปแบบ ดังนี้
สำนักงานอัจฉริยะ (Intelligent Workplace) : “บริการความปลอดภัยจากการใช้งานของพนักงาน” โดย Prisma Access + การตรวจจับภัยคุกคามของ NTT + การแจ้งเตือนเหตุการณ์สุ่มเสี่ยง + การให้คำปรึกษา + บริการดูแลตลอดการใช้งาน Palo Alto Networks
โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ (Intelligent Infrastructure) : “ความปลอดภัยการเชื่อมต่อกับสำนักงานสาขา”โดย Prisma Access + การตรวจจับภัยคุกคามของ NTT + การแจ้งเตือนเหตุการณ์สุ่มเสี่ยง + การให้คำปรึกษา + บริการดูแลตลอดการใช้งาน Palo Alto Networks
ความปลอดภัยไซเบอร์อัจฉริยะ (Intelligent Cybersecurity) : “การดำเนินการด้านความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ”โดย Palo Alto Networks Cortex XSOAR ด้วยแพลทฟอร์ม Cortex XSOAR + การให้คำปรึกษา
สำหรับรูปแบบการให้บริการของ ‘Secure by Design’ ดังกล่าว จะสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถขยายการดำเนินงานได้อย่างราบรื่นด้วยสถาปัตยกรรมโซลูชั่นและรูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี บุคลากร และกระบวนการทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการทำงานระหว่างเครื่องจักรกับเครื่องจักร และสามารถคัดกรองการแจ้งเตือนเพื่อช่วยลดเวลาเฉลี่ยในการตอบสนองการรายงานผล (Mean Time To Respond : MTTR) รวมถึงจำกัดความเสี่ยงจากการถูกคุกคามอีกด้วย
ด้าน Amit Singh ประธานบริการของ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์ค กล่าวว่า NTT Ltd. เป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมและเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำสถาปัตยกรรม “Secure by Design” ของพาโล อัลโต เน็ตเวิร์ค สำหรับให้บริการแก่ลูกค้า และด้วยการผสานเทคโนโลยีจาก Prisma Access และ Cortex XSOAR ของเรา รวมเข้ากับเทคโนโลยีชั้นนำของ NTT ทำให้เรามีศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมสนับสนุนองค์กรธุรกิจได้อย่างง่ายดาย และสามารถแนะนำแนวทางในการเปลี่ยนผ่านยุคดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย
NTT Ltd. จะผสานรวมเทคโนโลยี Cortex XSOAR เข้ากับศูนย์รักษาความปลอดภัย (Security Operations Centers : SOC) ในหลายแห่งจากทั่วโลก ซึ่งการผสานรวมเทคโนโลยีครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการปรับปรุง และการส่งมอบบริการความปลอดภัยให้กับลูกค้าของ NTT Ltd, ได้อย่างดีเยี่ยม โดยการนำเสนอบริการจะถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันเสมือนเป็นลูกค้าของ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์ค ที่ต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ SOC ผ่านทาง SOAR ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ NTT Ltd. มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด พร้อมกับการปรับเปลี่ยนให้ลูกค้าหันมาใช้บริการ SOC ของ NTT Ltd. ที่มีศักยภาพทั้งในด้านการค้นหาความสุ่มเสี่ยงจากภัยคุกคาม และบริการตรวจจับภัยไซเบอร์ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
—————————————————–
