TTC Fair2019 at Chang Mai

หอการค้าไทย เตรียมจัดงานแสดงสินค้า “หอการค้าแฟร์”ที่เชียงใหม่ ปลายปีนี้ กระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

หอการค้าไทยเตรียมจัดงาน “หอการค้าแฟร์” ที่จังหวัดเชียงใหม่  วันที่ 29 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา  มีบริษัทเข้าร่วมงานกว่า 800 คูหา บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร คาดจะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 170,000 คน เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท งานนี้จะช่วยขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ

          นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายหลักด้านหนึ่งของหอการค้าไทย ในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย การจัดงาน “หอการค้าแฟร์” (TCC Fair) จึงถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ตอบโจทย์ โดยเป็นการยกระดับมาตรฐานงานแสดงสินค้าในภูมิภาค สร้างโอกาสและขยายช่องทางการตลาด ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ รวมทั้ง เป็นกิจกรรมที่สร้างความร่วมมือ เชื่อมโยงกับเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เสริมความเข้มแข็ง อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่น

          สำหรับการจัดงานหอการค้าแฟร์ในปีที่ผ่านมา ณ จังหวัดเชียงใหม่ และ เดือนกรกฎาคมปีนี้ ณ จังหวัดขอนแก่น ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ตลอดการจัดงาน 10 วัน ที่จังหวัดเชียงใหม่มียอดจำหน่ายสินค้า รวมทั้งสิ้น 1,256 ล้านบาท และผู้เข้าชมงาน 1.6 แสนคน ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น มียอดจำหน่ายสินค้า รวมทั้งสิ้น 606 ล้านบาท และผู้เข้าชมงาน 3.4 หมื่นคน ซึ่งนอกจากจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนจากการค้าขายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย เช่น การท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก ธุรกิจโฆษณา

          “จากความสำเร็จที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ จึงมุ่งพัฒนาการจัดงานที่จังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ โดยยกระดับการจัดงานแสดงสินค้าส่งเสริมกิจกรรมทางการค้า การท่องเที่ยวและบริการ เพื่อให้เป็นงานระดับ Flagship ของภาคเหนือโดยการสนับสนุนการขายสินค้าเด่นๆ จากภาคอื่นๆ ตลอดจนจากประเทศเพื่อนบ้านในงานนี้ โดยเชิญนักธุรกิจจากต่างประเทศทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมาร่วมงานด้วย นอกเหนือจากผู้ร่วมงานทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่จากส่วนกลาง และเอสเอ็มอีที่น่าสนใจในพื้นที่  ดังนั้นผู้ที่มาเข้าชมงานในปีนี้จะได้พบกับสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น” นายกลินท์ กล่าว

          สำหรับการจัดงานหอการค้าแฟร์ ณ จังหวัดเชียงใหม่  จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน–8 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งงานนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคการค้าขายภายใน เชียงใหม่ และ จังหวัดข้างเคียงเพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและบริการ ที่พักโรงแรมและร้านอาหาร ตลอดจนเกิดการสร้างงานและจ้างงานในพื้นที่.ในช่วงเวลาการจัดงานนี้ โดยคาดว่าจะมีรายได้หมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะช่วยในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคเหนือ

ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการ
แสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ กล่าวว่า งานหอการค้าแฟร์ ได้มีการผนึกกำลังของผู้ประกอบการสินค้าชั้นนำของไทยจากส่วนกลาง ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีความทันสมัยและนวัตกรรมที่โดดเด่น และส่วนภูมิภาค โดยมีสินค้าท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ มาจากหอการค้าจังหวัด และเครือข่ายพันธมิตร มาจัดแสดงและจำหน่ายในงานภายใต้ Concept “งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อผู้บริโภค (The Regional Trade Consumer & Lifestyle Exhibition) อีกทั้ง ได้มีการประชาสัมพันธ์งานครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีนตอนใต้) และกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ ผ่านเครือข่ายพันธมิตรของหอการค้าไทยในประเทศต่าง ๆ

ทั้งนี้โดยมีหน่วยงานและบริษัทที่ร่วมงาน ในครั้งนี้ กว่า 800 คูหา บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร จากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการเงิน อาทิ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี บริษัทอุตสาหกรรมอาหารชั้นนำ ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ และแบรนด์ธุรกิจทีมีศักยภาพ อาทิ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอลอุตสาหกรรม จำกัด บริษัท
ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)

อย่างไรก็ตาม ภายในงานจะได้พบสินค้า/บริการที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ และ Showcase สินค้าคุณภาพซึ่งผ่านการคัดสรรจากหอการค้า 77 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสินค้าจากกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของหอการค้าไทย (YEC) และ CLMV Pavilion และพบปะแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ประกอบการชั้นนำของไทย ทั้ง SMEs และ Startup นอกจากจะได้สินค้าคุณภาพดีราคาพิเศษแล้ว ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลกลับบ้านทุกวัน และรางวัลใหญ่ที่จะแจกในวันสุดท้ายของการจัดงาน คือ “รถยนต์ TOYOTA YARIS”

นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในงานหอการค้าแฟร์  ซีพี ออลล์ จะจัดงาน“วันแห่งโอกาสดี @ CP ALL สัญจร ณ เชียงใหม่” โดยร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้กับ  เอสเอ็มอี เกษตร คนทำงาน นักเรียนและนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษา โอกาสในการสร้างอาชีพ โอกาสในการทำธุรกิจ

นอกจากนี้ สมาคมการค้าปลีกและเอสเอ็มอีทุนไทย และ ซีพี ออลล์ ยังได้จัดสัมมนาพิเศษ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อยและเอสเอ็มอี ในหัวข้อ “ถอดรหัสความสำเร็จ SME ยุค 4.0” โดยมีวิทยากรที่ประสบความสำเร็จ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากเจ้าของธุรกิจ เอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จพร้อมกับแนะนำวิธีการนำสินค้ามาจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง (24 shopping)

นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด กล่าวว่า ความพิเศษของงานหอการค้าแฟร์ จะจัดขึ้นโดยยังคงรักษาระดับมาตรฐานเดียวกันกับงาน Thaifex-World of Food Asia ซึ่งถือเป็นมาตรฐานการจัดงานในระดับโลกเช่นเดียวกับปีที่แล้ว โดยเป็นการผนึกกำลังของผู้ประกอบการสินค้าชั้นนำของไทยจากส่วนกลาง และผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีความโดดเด่นจากส่วนภูมิภาครวมเข้าด้วยกัน

          สำหรับอีกหนึ่งความพิเศษของงานหอการค้าแฟร์ นอกจากจะมีสินค้าจากผู้ประกอบการที่เป็นสินค้าคุณภาพในราคาพิเศษแล้ว ยังได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การจัดรอบเวลา “สินค้านาทีทอง” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ สามารถขึ้นมาทำการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้า บนเวทีกลางของงานได้ ทุกวัน และกิจกรรมจับรางวัลชิงโชค สำหรับผู้ที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของภายในงานเท่านั้น กิจกรรมในส่วนนี้ นับเป็นอีกสีสันหนึ่งที่จะเกิดขึ้นภายในงาน

อย่างไรก็ตาม การจัดงานในครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานจากจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดใกล้เคียง และผู้เข้าร่วมชมงานในกลุ่ม CLMV ประมาณ 170,000 คน ตลอดระยะเวลา 10 วันของงาน

                                                     ————————————-

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *