‘MAI’ MULTI TALENT 2019

MAI กางแผนปี 2563 เดินหน้าจัดประกวดนางงามนานาชาติ หนุนเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวไทยเตรียมแตกไลน์ธุรกิจต่อยอดศักยภาพสาวงามสู่ระดับโลก

MAI ผู้นำด้านการจัดเวทีประกวดนางงาม นางแบบ และนายแบบระดับนานาชาติ และเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ ERM Thailand เวทีประกวดนางงามกว่า 18 เวทีระดับโลก ผยธุรกิจการประกวดไทยยังรุ่ง ด้วยเม็ดเงินสะพรั่งกว่า 500 ล้านบาท กางแผนธุรกิจปี 2563 เดินหน้าจัดประกวดนางงามเต็มกำลัง ขยายเวทีต้อนรับผู้เข้าประกวดนานาชาติ หนุนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวไทย พร้อมเตรียมแตกไลน์ธุรกิจต่อยอดศักยภาพสาวงามรุ่นใหม่สู่ระดับโลก ตั้งเป้าโตเท่าตัว และขึ้นแท่นผู้จัดการประกวดอันดับหนึ่งในภูมิภาค

            นางสาวปวีณา บำรุงรส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสออร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MAI) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเวทีประกวดนางงามเป็นโมเดลธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไหลเข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การโฆษณา สปอนเซอร์ การโหวตผ่านเครือข่ายสื่อสาร และสื่อโชเชียลมีเดีย โดยคาดว่า ในแต่ละปีมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ MAI ที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 35% จากปี 2561 และประสบความเร็จบนเวทีการประกวดระดับนานาชาติมากมาย รวมถึงได้ขยายธุรกิจด้วยการเปิดตัว “MAI MULTI TALENT 2019” ในปี 2562 นี้ ซึ่งเป็นบริษัทน้องใหม่ภายในเครือบริษัท มิสออร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MAI) ที่ดำเนินธุรกิจการประกวดนางงามระดับอินเตอร์ เพื่อเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ

          “ในปีนี้เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากเวทีการประกวดนางงาม นายแบบ และนางแบบ ทั้งไทยและระดับนานาชาติ กับ 4 โปรเจคสุดยิ่งใหญ่ ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ได้แก่ Mrs.Thailand 2019, Mrs.Tourism Queen International 2019, Miss Tourism Queen International 2019 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเวทีต้นแบบของผู้หญิงที่เป็นหนึ่งด้านความคิด และความงาม สวยตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ภายใต้ลิขสิทธิ์แห่ง ERM Thailand และเวทีการประกวด “T–AM” (ที-แอม) หรือ Thailand Tourism Ambassador ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งถือเป็นเวทีการประกวดเฟ้นหากลุ่มคนต้นแบบคนรุ่นใหม่ เพื่อนำเสนอการท่องเที่ยวไทยเชิงอัตลักษณ์อย่างแท้จริง

          นอกจากนั้น เรายังประสบความสำเร็จจากการจัดเวทีการประกวดบุคคลที่มีศักยภาพด้านต่าง ๆ (Talent) ได้แก่ การประกวดดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ เพื่อนำชุดมาใช้ในการประกวดรอบสุดท้าย ซึ่งช่วยส่งเสริมผ้าไทยและเศรษฐกิจไทยต่อไป ด้านเวทีการประกวด Mrs. เราก็ได้มีการประกวดออกแบบมงกุฎ ที่จะใช้เป็นมงกุฎประจำกองประกวด ในรูปแบบที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นไทยและใช้วัสดุในประเทศ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจไทยด้านอัญมณีไทย และโชว์ฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก” ปวีณากล่าว

          สำหรับในปี 2563 “MAI MULTI TALENT 2019” ยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจเวทีการประกวดอย่างเต็มกำลัง เพื่อหนุนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย และต่อยอดศักยภาพสาวงามรุ่นใหม่สู่ระดับโลก โดยตั้งเป้าการเติบโตปี 2562 และ 2563 ที่ 30% คาดรายได้กว่า 40 – 60 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง จากแผนการขยายเวทีในระดับนานาชาติ และจากการแตกไลน์ธุรกิจเวทีนางงามในด้านต่าง ๆ โดยได้เตรียมจัดการประกวดเวทีระดับโลกที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ประกอบด้วยงานประกวด  Mrs.Thailand, Mrs. Tourism Queen International, Miss Tourism Queen International, T-AM 2020, IMOTY International Model of the Year และ World Top Model ซึ่งจะมีการปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาการประกวดที่ทันสมัยมากกว่าที่เคย โดยมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของผู้เข้าประกวด ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างหน้าตา บุคคลิกภาพที่โดดเด่น มีทัศนคติบวก เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ และความสวยงามในแบบของตนเอง โดยจะมีการนำสื่อโซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีการโหวตที่ล้ำสมัยมาใช้ในการประกวด เพื่อนำเสนอเรื่องราวของผู้เข้าประกวด และสร้างชื่อเสียงให้กับเวทีการประกวดได้กว้างยิ่งขึ้น อาทิ การโปรโมทการท่องเที่ยวไทยผ่านการเล่าเรื่องของผู้เข้าประกวด (Story Telling) และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ อาทิ Youtube Channel, Official Fanpage Facebook, และช่องทางของผู้เข้าประกวดไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Instagram

          นอกจากนั้น ยังได้วางแผนแตกไลน์ธุรกิจจากการเวทีการประกวด เพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะด้านบุคลากรที่มีความเทียบเท่ากับต่างประเทศ ด้วยการผลักดันให้คนไทยได้ก้าวเข้าสู่ระดับสากล และเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับอินเตอร์เนชั่นนัล แผนธุรกิจที่วางไว้ อาทิ MAI Fashion Styling โปรเจคที่จะพานางงามทุกประเทศไปทำกิจกรรมในแต่ละจังหวัด เพื่อเป็นการโปรโมทประเทศไทย, MAI TALENT AGENCY โปรเจคผลักดันนางแบบและนายแบบเข้าสู่สังกัดระดับอินเตอร์เนชั่นนัลในแต่ละประเทศ อาทิ ยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึง Fashion Showcase & Live Merchant และ Fashion Organization

          “เรามองว่า การประกวดไม่ใช่เป็นเพียงแค่การแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเท่านั้น แต่สามารถต่อยอดในสายธุรกิจบันเทิงและการท่องเที่ยวได้อีกด้วย ซึ่งตลาดไทยมีศักยภาพสำหรับธุรกิจการจัดเวทีการประกวดนางงามอย่างมาก โดยธุรกิจการประกวดนางงามของเราจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยให้กลายเป็นอันดับหนึ่งของโลก ผ่านเนื้อหาการประกวดของเรา ในการพาผู้เข้าประกวดเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทย เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของไทย และโปรโมทประเทศไทยให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างสู่สากล” ปวีณากล่าวปิดท้าย

                                          —————————————–

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *