ธนชาตออกมาตรการ “ตั้งหลัก” ช่วยผู้ประสบภัยพายุปาบึกพักหนี้

ธนชาตออกมาตรการ “ตั้งหลัก” ช่วยผู้ประสบภัยพายุปาบึก ให้พักชำระหนี้สูงสุด 4 เดือน พร้อมดูแลรถเสียหาย บ้านพัง ขาดสภาพคล่อง 

 ธนชาตห่วงใยผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึกในภาคใต้ ออกมาตรการช่วยเหลือให้  “ตั้งหลัก” ฝ่าวิกฤต โดยให้ขอพักชำระหนี้ได้สูงสุด 4 เดือน พร้อมช่วยเหลือทุกกลุ่มทั้งลูกค้ารายย่อยและเจ้าของธุรกิจ ครอบคลุมทั้งลูกค้ารถยนต์ บ้าน ธุรกิจส่วนตัว หรือ ผู้ที่ขาดสภาพคล่อง หวังบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว

 นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร   ธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พายุโซนร้อนปาบึกส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในหลายจังหวัดทางภาคใต้ ธนาคารธนชาตมีความห่วงใยจึงเร่งออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยฟื้นฟูความเป็นอยู่และกิจการภายหลังน้ำลดให้ลูกค้าของธนชาตสามารถ “ตั้งหลัก” และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้งโดยเร็ว โดยมาตรการที่ออกมาครอบคลุมลูกค้าทุกด้านทั้งรถยนต์ บ้าน ธุรกิจ ตลอดจนกลุ่มที่ขาดสภาพคล่องที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยตามประกาศของทางการ

 โดย ลูกค้ากลุ่มที่มีรถยนต์ และใช้บริการ สินเชื่อรถยนต์ กับธนาคารที่ได้รับความเดือดร้อนขาดสภาพคล่องทางการเงินจากปัญหาพายุโซร้อนปาบึก สามารถขอพักชำระหนี้ได้สูงสุดไม่เกิน 120 วัน (4เดือน) หรือ       ขอขยายระยะเวลาการผ่อนเพื่อให้ค่างวดลดลง และสำหรับประชาชนทั่วไปที่มีรถยนต์เป็นของตัวเองแต่ต้องการเงินสดไปใช้จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน สามารถนำรถยนต์มาใช้บริการสินเชื่อรถแลกเงินได้โดยธนาคารจะมอบสิทธิพิเศษให้ คือช่วย “ตั้งหลัก” ด้วยการรับเงินไปก่อน และเริ่มผ่อนงวดแรกในอีก 90 วัน

 ส่วนผู้ที่ทำ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจกับธนชาตประกันภัย และรถเสียหายจากภัยธรรมชาตินี้จะได้รับบริการรถยกฟรีไปที่อู่ พร้อมการประสานไปยังอู่รถยนต์และศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดซ่อมรถยนต์ให้กับผู้ที่ทำประกันภัยรถ ประเภท 1, One Lite Plus, One Lite, Super Lite, 2 บวกจัดเต็มคุ้มครองน้ำท่วม, 2บวกคุ้มครองน้ำท่วม และ 2 บวกโกลด์คุ้มครองน้ำท่วม หากรถเสียหายสามารถเคลมประกันได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์

 ลูกค้าที่ใช้ บริการสินเชื่อเคหะ กับธนาคาร แม้บ้านไม่ได้รับความเสียหาย แต่ได้รับความเดือดร้อน สามารถขอพักชำระหนี้กับธนาคารได้นานสูงสุด 4 เดือน หรือขอปรับลดค่างวดได้นานสูงสุด 12 เดือน ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2562 ส่วนลูกค้า ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย และ ประกันภัยรักบ้านห่วงบ้าน และซื้อความคุ้มครองภัยจากลมพายุเพิ่มเติม กับ ธนชาตประกันภัย สามารถเคลมความเสียหายได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ โดยผู้ที่ทำ ประกันภัยรักบ้านห่วงบ้าน จะได้รับความคุ้มครองสำหรับการขนย้ายซากทรัพย์สินที่เสียหายให้ด้วย

 สำหรับลูกค้า เงินฝาก ของธนาคารธนชาตทุกประเภทบัญชีที่ผูกบัตรเดบิตและเปิดบัญชีในพื้นที่           16 จังหวัดที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก ฟรีค่าธรรมเนียมการกดถอนเงินผ่านตู้ ATM ของธนชาต และ              ตู้ต่างธนาคารทุกธนาคารทั้งในเขตและข้ามเขต ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2562

 ด้านลูกค้าที่ใช้บริการ บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อสารพัดนึก และได้รับความเดือดร้อนขาดสภาพคล่อง สามารถขอพักชำระหนี้กับธนาคารได้นานสูงสุดไม่เกิน  4 เดือน

 ขณะที่เจ้าของธุรกิจที่ใช้บริการ สินเชื่อ SME และได้รับผลกระทบ สามารถขอพักชำระหนี้ได้นานสูงสุด   4 เดือน หรือขอปรับลดค่างวดได้นานสูงสุด 12 เดือน ส่วนลูกค้าผลิตภัณท์ ธนชาต SME มีกันไว้พลัส และธนชาต SME DD บริษัท นิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ (AIG) (บริษัทฯ)  ในฐานะบริษัทผู้รับประกันภัยจะดำเนินการพิจารณาจ่ายสินไหมทดแทนงวดแรก 50% ภายใน 7 วันทำการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าภาคธุรกิจและลูกค้ารายย่อยนำเงินไปซ่อมแซมอาคาร หรือทรัพย์สินต่างๆ ที่เสียหาย ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อบริษัท นิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ (AIG) เพื่อส่งเอกสารและรายละเอียดของความเสียหายได้โดยตรงที่เบอร์โทร 0-2649-1999 กด 1 กด 1 ทางบริษัทฯจะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์โดยเร็วที่สุด

 “ธนชาตและลูกค้าถือเป็นหุ้นส่วนกัน เราอยู่เคียงข้างกันทั้งในยามปกติและยามที่ลูกค้าเดือดร้อนลำบาก โดยเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาครั้งนี้จะช่วยบรรเทาและแบ่งเบาภาระของลูกค้าให้ผ่านพ้นภัยพิบัติไปได้ด้วยดี”    นายประพันธ์ กล่าว

 ลูกค้าที่ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึกใน 16 จังหวัด และต้องการเข้าร่วมโครงการตั้งหลัก ติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารธนชาต ทุกสาขา หรือโทร. 1770

                                                         ————————————-