ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่33

การแข่งขันวันที่ 2 ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า จับตากัปตันหญิงทีมเรือไทยไล่จี้ผู้นำรุ่นไออาร์ซี 0

การแข่งขันวันที่ 2 ของรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 33 ไฮไลต์ทีมเรือใบไทยอยู่ที่รุ่นไออาร์ซี 0 ซึ่งทำผลงานดีกว่าเมื่อวานอย่างโดดเด่น โดยนพเก้า พูนพัฒน์ กัปตันหญิงเจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2010 และ 2014 นำทีมเรือไทยขับเคี่ยวกับทีมเรือจากออสเตรเลียอย่างดุเดือด

            นพเก้า พูนพัฒน์ กัปตันเรือใบหญิงวัย 24 ปีเจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2010 ประเภทเรือใบออพติมิสต์หญิง และเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 เรือใบประเภททเวนตี้ไนเนอร์หญิง ซึ่งพัฒนามาเล่นเรือใบใหญ่แบบเต็มตัวและรับหน้าที่กัปตันเรือทีเอชเอ72 ในรุ่นไออาร์ซี 0 เล่าถึงการแข่งขันวันนี้ว่า “วันนี้กระแสลมแรง แม้ทีมเราเพิ่งมารวมตัวกันในวันฝึกซ้อมแต่วันนี้ก็ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนคอร์สการแข่งขันก็แตกต่างจากเมื่อวาน โดยเป็นแบบอ้อมทุ่นเหนือลมใต้ลมคอร์สสั้น 1 รอบ และทางไกลอีก 1 รอบ ทำให้แข่งขันสนุกขึ้น เพราะในสนามแบบคอร์สต้องใช้ทั้งเทคนิคการอ้อมทุ่น การกลับลำ ใช้เทคนิคอื่น ๆ ประกอบกัน ในขณะที่สนามระยะไกลกลับต้องอาศัยความอดทนมากกว่า เพราะเราต้องบังคับหางเสือเพื่อแล่นทางตรงให้เร็วที่สุด เรียกว่าการแข่งขันวันนี้ต้องใช้เทคนิคต่างกันมาก” แม้วันนี้พลาดตำแหน่งผู้นำแก่เรือทีมฮอลลีวู้ดจากออสเตรเลียไปไม่กี่วินาที แต่กัปตันหญิงเจ้าของแชมป์รุ่นไออาร์ซี 0 จากรายการสมุย รีกัตต้า ยังคงมั่นใจว่าจะคว้าแชมป์ในภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งนี้

          อีกหนึ่งไฮไลต์คือรุ่นพรีเมียร์ กัปตันอิทธินัย ยิ่งศิริ ซึ่งนำทีมเรือไพน์แปซิฟิก ไต่อันดับจากที่ 3 เมื่อวานเป็นที่ 2 ในวันนี้ เล่าว่า “กระแสลมวันนี้เหมาะกับการแล่นใบมาก ในรอบแรกลมแรงถึง 17 นอต ทำให้ทีมเรือทุกทีมขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนานและเข้าเส้นชัยไล่เลี่ยกันมาก ส่วนในรอบสองซึ่งเป็นทางไกล ช่วงท้ายลมเบาลงนิดหน่อย แต่ก็ท้าทายแตกต่างกัน สำหรับทีมของเราวันนี้เล่นได้ไม่ผิดพลาดเลย โดยรวมรู้สึกพอใจกับผลงานมากและจะพยายามให้ดีขึ้นในวันต่อ ๆ ไป และขอให้ชาวไทยร่วมเป้นกำลังใจให้ทีมเรือใบไทยทุกรุ่น” ในการแข่งขันวันที่ 2 เรือไพน์แปซิฟิกตามหลังอันดับ 1 เพียง 5 คะแนน จึงยังมีความหวังมากที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ในปีนี้  

          สภาพอากาศยิ่งงทวีความท้าทายกว่าเมื่อวานด้วยกระแสลมแรงตั้งแต่ช่วงเช้าราว 15-18 นอต และสลับเบาในช่วงบ่าย แต่กระแสน้ำกลับแรงมาก ประกอบกับสนามแข่งมีทั้งแบบคอร์สและแบบทางไกลอ้อมเกาะ จึงสร้างความลำบากและท้าทายทักษะของทีมเรือใบใหญ่ทั้ง 75 ลำ

          เควิน วิทคราฟท์ ประธานกรรมการจัดการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า กล่าวว่า “การแข่งขันวันที่ 2 เริ่มต้นตอนเช้าด้วยกระแสลมแรงมาก ทำให้การแข่งขันสนุกตั้งแต่รอบแรกและนักกีฬาต่างก็ตื่นเต้นเร็วกับความเร็วของเรือ เมื่อลมยังแรงต่อเนื่องในรอบ 2 คณะกรรมการจึงตัดสินใจกำหนดแข่งในระยะยาวเลียบทางฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต แม้ช่วงท้ายลมจะค่อย ๆ เบาลง แต่ก็สามารถแข่งขันจนครบรอบได้ ถือว่ากระแสลมวันนี้ดีมากสำหรับการแข่งขันเรือใบ แต่ความท้าทายจริง ๆ ของวันนี้คือกระแสน้ำที่นับว่าแรงมาก โดยเฉพาะแถวแหลมพรหมเทพ ซึ่งสร้างความลำบากในการดูว่าน้ำขึ้นลงทางไหนและท้าทายทักษะของทีมเรืออย่างมาก”

สำหรับการแข่งขันวันที่ 2 การแข่งเรือใบประเภทความเร็วหรือเรซิ่งจบได้ภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนประเภทอื่นเสร็จภายใน 3 ชั่วโมงครึ่ง ติดตามผลการแข่งขันเรือใบใหญ่รุ่นอื่น ๆ ได้ที่ https://kingscup.com/result

          ส่วนในวันที่ 4 ธันวาคม นอกจากจะเป็นการแข่งขันวันที่ 3 ของเรือใบใหญ่คีลโบ้ทและมัลติฮัลล์ ยังเป็นการเริ่มต้นแข่งขันเรือใบเล็กวันแรกของรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส (International Dinghy Classes) ซึ่งจัดแข่งขันถึง 6 รุ่น และรายการเรือใบบังคับวิทยุ (International One Meter Class: IOMC) ซึ่งจัดผนวกเป็นส่วนหนึ่งของภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าเป็นครั้งแรกในปีนี้ 

          ปีนี้เรือใบใหญ่ประเภทคีลโบ้ทและมัลติฮัลล์จัดแข่งขันรวม 10 รุ่น ได้แก่ ไออาร์ซี 0, ไออาร์ซี 1, ไออาร์ซี 2, พรีเมียร์, แบร์โบ๊ตชาร์เตอร์ เอ, แบร์โบ๊ตชาร์เตอร์ บี, มัลติฮัลล์, ไฟร์ฟลาย 850, มัลติฮัลล์ครูซิ่ง, และครูซิ่ง คลาส โดยมีเรือใบใหญ่เข้าร่วมแข่งขันรวม 75 ลำของทีมนักกีฬาชั้นนำจาก 14 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน รัสเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี เยอรมนี สหราชอาณาจักร ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เอสโตเนีย และไทย 

          ทั้งนี้การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้การอำนวยการของสโมสรเรือใบราชวรุณ โดยการสนับสนุนจากกองทัพเรือ สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้สนับสนุนหลักการจัดงานคือ กะตะ กรุ๊ป รีสอร์ท ร่วมด้วยผู้สนับสนุนร่วมคือ อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป และผู้สนับสนุนเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ ได้แก่ ไชน่า เบลต์ แอนด์ โร้ด อินเตอร์เนชั่นแนล รีกัตต้า (บีอาร์อาร์), บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน), และ ฟอร์ด

          หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kingscup.com  สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการภาพความละเอียดสูง สามารถล็อกอินได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้

http://www.facebook.com/phuketkingscupregatta

                              ————————————-

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *