รพ.สวนผึ้ง ก้าวสู่ “Smart Hospital”
ยึดประชาชนสุขภาพดี สิ่งแวดล้อมดี
โรงพยาบาลสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีเป็นโรงพยาบาลพื้นที่ชายแดน สนองตอบนโยบาย Thailand 4.0 พร้อมดูแลประชากรในพื้นที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างทั่วถึง บริหารงานแบบบูรณาการจากหลายภาคส่วน ตามแนวทาง “Smart Hospital ที่ครอบคลุมคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีสุขภาพดี และสิ่งแวดล้อมดี” ในรูปแบบของสวนผึ้งโมเดล โดยมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ 1) Smart People ประชาชนที่มีศักยภาพในการดูแลตนเอง ครอบครัว และมีส่วนร่วมกับสังคม 2) Smart Organization หน่วยงานในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในการบูรณาการ การดำเนินงานในทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน 3) Smart Hospital โรงพยาบาลที่สนับสนุนส่งเสริม ให้ประชาชนมีศักยภาพในการดูแลตนเอง โดยมีการขับเคลื่อนในรูปแบบของทีม ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนให้สะดวกต่อการเข้าถึงบริการ พัฒนาการให้บริการด้วยเครื่องมือและวิทยาการที่ทันสมัย และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนให้สะดวกต่อการเข้าถึงบริการ
นายแพทย์ฉัทฐกร ธัญเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนผึ้ง เปิดเผยว่าโรงพยาบาลสวนผึ้งนับเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการดูแลประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอสวนผึ้งและอำเภอบ้านคา ในด้านสุขอนามัยโดยเพิ่มทางด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสภาพเป็นการช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้และพัฒนาชุมชมโดยรอบโรงพยาบาล ทั่งส่งเสริมบุคลากรให้มีการค้นคว้าวิจัย และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ตามวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลที่ว่า “โรงพยาบาลสวนผึ้ง ที่พี่งของประชาชน บำบัดรักษา พัฒนาชุมชน” โดยที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้พัฒนาบริการที่ได้คุณภาพมาตรฐาน เป็นมิตรต่อผู้เข้ารับบริการ
นายแพทย์ฉัทฐกร กล่าวเพิ่มเติมถึงการทำงานตามนโยบาย Thailand 4.0 ที่ต้องการให้โรงพยาบาลมีความทันสมัย และนำเอาใช้เทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อลดขั้นตอนบริการ ลดระยะเวลารอคอย ลดความแออัด เช่น การนำเอาชุด LaboLink Smart OPD ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ประกอบด้วย เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน เครื่องชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงชนิดแกนเลื่อนอัตโนมัติ คนไข้สามารถทำเองได้ เมื่อวัดเสร็จแล้ว ค่าที่ได้จะถูกส่งผ่าน Labolink Box เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลโดยอัตโนมัติ ทำให้การจัดการหน้าห้องตรวจเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคิวอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงนัดหมายการตรวจและแจ้งคิวผ่านจอภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาลงสู่แอปพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ การให้ข้อมูลด้านการใช้ยาแก่ผู้ป่วยผ่านแอปพลิเคชั่น RDU ใช้โปรแกรม ThaiCOC ส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยกลับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในชุมชนดูแลต่อเนื่อง ลดการเจ็บป่วยซ้ำและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างประชาชนกับโรงพยาบาลผ่านระบบ Line Official เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) จำนวน 1,384 คน ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรมาตรฐาน อสต. ทำงานเป็นจิตอาสาควบคู่กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อช่วยเหลือ สื่อสาร ทำความเข้าใจกับชุมชน ให้มีความรู้ในการดูแลสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรคอีกด้วย “การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพของประชาชนให้มีความทันสมัย เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะนำไปสู่การให้บริการทางการแพทย์ ที่ให้ประชาชนนำข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากโรงพยาบาลสวนผึ้ง เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ติดกับแนวชายแดน จึงมีภารกิจและหน้าที่นอกเหนือเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลทั่วไป คือการดูแลเรื่องการระบาดของโรคที่มาจาก แนวชายแดน เพิ่มการดูแลพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนและสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน ถือว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้โรคภัยไข้เจ็บที่มาจากแนวชายแดนลดลงได้” นายแพทย์ฉัทฐกร กล่าวในท้ายสุด
——————-GEN———————-