LINE ประเทศไทยเผยความสำเร็จธุรกิจสติกเกอร์ เติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค คนไทยฮิตส่งตลอดปีสูงกว่า 1 หมื่นล้านครั้ง ลุยเพิ่มช่องทางขยายฐานผู้ใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง
ปี 2561 ธุรกิจไลน์สติกเกอร์ในไทยสร้างปรากฏการณ์เติบโตสูงสุดในภูมิภาค ยอดดาวน์โหลดไลน์สติกเกอร์ในไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดครีเอเตอร์สติกเกอร์ที่โตกว่า 40% โดยตลอดทั้งปี 2561 คนไทยฮิตใช้งานสติกเกอร์รวมยอดส่งพุ่งเกิน 1 หมื่นล้านครั้ง หรือเฉลี่ยวันละ 31 ล้านครั้ง ตอกย้ำความแข็งแกร่งของตลาดไทย ผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่เช่นตู้เติมเงิน และสร้างการรับรู้ช่องทางการซื้อผ่าน LINE STORE และการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งปี รวมถึงส่งเสริมผู้ออกแบบสติกเกอร์ (ครีเอเตอร์) และความร่วมมือกับผ้ผลิตคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งมากขึ้น
นายกณพ ศุภมานพ ผู้อำนวยการธุรกิจสติกเกอร์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่กลุ่มธุรกิจไลน์สติกเกอร์มีการเติบโตเป็นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศผู้ใช้งานสติกเกอร์ไลน์สูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ซื้อสติกเกอร์ที่สูงขึ้น 28% ยอดการส่งสติกเกอร์ใช้งานเฉพาะสติกเกอร์แบบจำหน่าย ที่มีสูงกว่า 1 หมื่นล้านครั้ง หรือเฉลี่ยวันละ 31 ล้านครั้ง โดยทาง LINE ได้เก็บข้อมูลสถิติการส่งสติกเกอร์ช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่ามียอดการส่งสติกเกอร์ทั้งในรูปแบบที่มีการจำหน่าย และแจกฟรีโดยแบรนด์ต่างๆ รวม 2 วัน ในระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2018 – 1 มกราคม 2562 สูงกว่า 252 ล้านครั้ง โดยเฉพาะวันที่ 1 มกราคม 2561 มีการส่งตลอด 24 ชั่วโมงกว่า 157 ล้านครั้ง หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 6.5 ล้านครั้ง สูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 51% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า สติกเกอร์ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือในการสื่อสารที่ยอดฮิตของคนไทย โดย “สติกเกอร์” นอกจากจะใช้แทนคำพูดแบบไม่ต้องพิมพ์ยาวแล้ว ยังช่วยสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกได้เข้าใจและชัดเจนและสนุกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
“การเติบโตอย่างของไลน์สติกเกอร์ในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากหลายปัจจัยทั้งในเรื่องของตัวคอนเทนต์เอง ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นของสติกเกอร์ในช่วงที่ผ่านมาที่มีสติกเกอร์หลายเซ็ทที่สร้างปรากฏการณ์ให้ผู้คนสนใจดาวน์โหลดเป็นจำนวนมาก โดย 4 เทรนด์ที่น่าจับตามองคือ สติกเกอร์ชื่อ สติกเกอร์เล่นคำ สติกเกอร์ตัวอักษรใหญ่ สติกเกอร์คนดัง ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้จำนวนมาก โดยเทรนด์ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับยอดดาวน์โหลดของทั้งออฟฟิเชียวสติกเกอร์ และ ครีเอเตอร์สติกเกอร์ ที่สติกเกอร์ที่ติดท็อป 10 นั้น ล้วนเป็นสติกเกอร์ที่อยู่ใน 4 เทรนด์ที่กล่าวมาทั้งหมด
นอกจากนี้การทำกิจกรรมการตลาดก็เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันยอดการดาวน์โหลด รวมถึงจำนวนผู้ใช้ใหม่ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เราได้มีการออกแคมเปญสร้างการรับรู้ ให้คนรู้จักวิธีการซื้อสติกเกอร์ผ่าน LINE STORE มากขึ้น โดยมีการโปรโมทผ่านทั้งสื่อออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้เข้าใจวิธีการซื้อสติกเกอร์ไลน์ผ่าน LINE STORE มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าแคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วยจำนวนยอดผู้ใช้ใหม่ในช่องทางดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 68% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงการทำกิจกรรมโปรโมทการซื้อไลน์สติกเกอร์ผ่านตู้เติมเงิน ที่เจาะตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยมีผู้ซื้อสติกเกอร์ไลน์ผ่านตู้เติมเงินอย่างเดียวทะลุ 1 ล้านคนแล้ว ในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี
นายกณพ ได้กล่าวถึงเทรนด์การทำสติกเกอร์ในปี 2562 นี้ว่า จากในปีที่ผ่านมาการร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ ศิลปิน ดาราในการผลิตธีม ทำให้ธีมไลน์เองได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมา อย่างมากโดยจากสถิติพบว่า 1 ใน 4 ของผู้ที่ดาวน์โหลดสติกเกอร์ศิลปิน ดารา จะดาวน์โหลดธีมของศิลปินนั้นมาใช้ด้วยเช่นกัน ทำให้ในปีนี้ ทางไลน์จะต่อยอดธุรกิจธีมมากขึ้น และอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าจับตามองสำหรับสติกเกอร์ที่ประสบความสำเร็จคือ การทำ Collaboration Stickers หรือการออกสติกเกอร์ที่เป็นคอนเทนต์จากค่ายผู้ผลิต ที่ออกแบบโดยครีเอเตอร์ชื่อดัง โดยพบว่าเมื่อเน้อหาคอนเทนต์เช่นเพลง และลายเส้นครีเอเตอร์ที่มีเอกลักษณ์และได้รับความนิยมมาร่วมมือกันออกสติกเกอร์นั้น จะมีการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะเปิดให้ทั้งสองฝั่งได้ร่วมงานกัน และยังเพิ่มโอกาสในการขาย และสร้างสีสันใหม่ให้กับผู้ใช้งาน
สำหรับกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจไลน์สติกเกอร์ในปี 2562 นี้นั้น จะยังมุ่งเน้นขยายช่องทางการชำระเงิน เพื่อเพิ่มทางเลือกและเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้มากขึ้น โดยไฮไลต์จะอยู่ที่การรองรับการชำระเงินด้วย Mobile banking การร่วมมือกันของพันธมิตรต่างๆทั้ ผูผลิตคอนเทนต์และช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อต่อยอดความสำเร็จของ O2O Strategy รวมถึงการทำ Loyalty program ต่างๆ เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างผู้ใช้สติกเกอร์ และไลน์ให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นอีกด้วย
———————————————-