กรมป่าไม้ จัดงานสถาปนา 127 ปี “รักษ์ป่า รักษาสรรพชีวิต” พร้อมขับเคลื่อนงานบริหารจัดการป่าไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างเครือข่ายดึงประชาชนมีส่วนร่วมดูแลรักษาป่า
วันนี้ (18 ก.ย. 2566) นายพิชิต สมบัติมาก รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีงานวันคล้ายวันสถาปนากรมป่าไม้ ครบรอบ 127 ปี “รักษ์ป่า รักษาสรรพชีวิต” ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้แก่เกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพปลูกสวนป่า รางวัลเข็มเชิดชูเกียรติให้กับผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้ และรางวัลโล่ ใบประกาศเกียรติคุณให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ที่เกษียณอายุราชการ และผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นบุคคลต้นแบบของกรมป่าไม้ ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมีผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และหน่วยงานภาคเอกชน เข้าร่วมงานแสดงความยินดี
นายพิชิต สมบัติมาก รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนาหน่วยงานกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2439 (ร.ศ.115) เพื่อทำหน้าที่ดูแลกิจการด้านป่าไม้ของประเทศไทย ตลอดจนพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ที่ทำให้กรมป่าไม้เจริญรุ่งเรือง
สำหรับในวันนี้กรมป่าไม้จะมีอายุครบรอบ 127 ปี มีภารกิจในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ครอบคลุมทุกมิติ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า การอนุรักษ์ การฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายควบคู่ไปกับการบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลเพื่อส่งต่อให้กับเยาวชนคนรุ่นหลังต่อไป นอกจากนี้ กรมป่าไม้ยังมีภารกิจสำคัญเร่งด่วนตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ) ได้มอบนโยบายขอให้ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเตรียมวางแผนในการป้องกันการเกิดปัญหาไฟป่าและการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ อดทน มีวินัย และขอให้ยึดถือประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า กรมป่าไม้ได้ดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ซึ่งในวันนี้ครบ 127 ปี ที่ผ่านมา กรมป่าไม้ได้น้อมนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในภารกิจด้านป่าไม้ ประยุกต์เทคโนโลยีทุกด้านมาใช้ในการบริหารจัดการป่าไม้เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการหน่วยงานทั้งจากภาครัฐและเอกชนในการร่วมกันป้องกันรักษาป่า พร้อมทั้งการปรับปรุงพระราชบัญญัติป่าไม้ปลดล็อกไม้หวงห้ามและส่งเสริมการปลูกไม้มีค่า และการแก้ปัญหาให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเกื้อกูลกัน
ทั้งนี้โดยการออกพระราชบัญญัติป่าชุมชน สนับสนุนให้ชุมชนที่อยู่รอบป่าได้ประโยชน์จากการดูแลรักษาป่า ซึ่งเป็นการจัดระเบียบชุมชนที่อาศัยในพื้นที่ป่าให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน สำหรับการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้ประชาชน กรมป่าไม้ได้ดำเนินการจัดหาที่ทำกินให้กับชุมชนภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติภายใต้เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่กำหนด เร่งรัดการฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน จึงทำให้สามารถรักษาพื้นที่ป่าไม้ของประเทศให้อยู่ในระดับคงที่ และยังมีแนวโน้มพื้นที่ป่าที่จะเพิ่มขึ้นและในอนาคตกรมป่าไม้ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลทางทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน และจะคงมุ่งมั่นในการบริหารจัดการป่าไม้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยยึดเอาแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นความสำคัญอันดับแรก
นายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติม จากความสำเร็จที่ผ่านมา กรมป่าไม้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ในการฟื้นฟูและพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ โดยกรมป่าไม้จะมีพิธีมอบโล่ ใบประกาศเกียรติคุณ หนังสือชมเชย และรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติ ให้กับผู้ที่ช่วยเหลือเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ และขอบคุณที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกรมป่าไม้ โดยจะมีพิธีมอบรางวัลต่าง ๆ ประกอบด้วย บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนงบประมาณ ในการปลูกและฟื้นฟูป่า และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สนับสนุนโครงการ Care the Wild โดยประสานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมปลูกป่าในพื้นที่ป่าชุมชน เป็นต้น
—————————————————