กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นหน่วยงานสำคัญที่มีภารกิจในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ โดยการนำระบบบัญชี มาใช้บริหารจัดการสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความโปร่งใส ส่งผลประโยชน์สู่สมาชิกและช่วยสร้างฐานรากเศรษฐกิจชุมชนที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ตั้งแต่การเข้าไปตรวจสอบบัญชีให้มีความเข้มแข็งและเป็นมาตรฐาน สร้างธรรมาภิบาลด้านการเงินการบัญชีและพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชี เพื่อเป็นเครื่องมือให้สหกรณ์สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างโปร่งใส มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ ตลอดจนช่วยในการวางแผนธุรกิจ และส่งเสริมให้สหกรณ์สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งสหกรณ์โคนมกุยบุรี จำกัด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสหกรณ์หนึ่งที่นำโปรแกรมเครื่องมือเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงิน ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร (CFSAWS:ss)และโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) ซึ่งพัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์มาเป็นเครื่องมือในการช่วยบริหารจัดการงานสหกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความแม่นยำ โปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิก
นายสมคิด สาหร่าย ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมกุยบุรี จำกัด เปิดเผยว่า สหกรณ์โคนมกุยบุรี จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2537 ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 86 คน มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 60,372,372.24 บาท ผลการดำเนินงานมีกำไรสุทธิ จำนวน 3,416,541.18 บาท โดยดำเนินธุรกิจ4 ด้าน ประกอบด้วย ธุรกิจเงินรับฝาก สินเชื่อ รวบรวมน้ำนมดิบ และจัดหาสินค้ามาจำหน่าย มีมูลค่าธุรกิจรวมทั้งสิ้น จำนวน 246,956,425.51 บาท โดยดำเนินธุรกิจรวบรวมน้ำนมดิบกับสมาชิกมากที่สุด จำนวน 142,083,541.03 บาท คิดเป็นร้อยละ 58 ของปริมาณธุรกิจทั้งสิ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)
สำหรับแนวทางการสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์และสมาชิก สหกรณ์ฯ ได้นำเครื่องมือเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร (CFSAWS:ss) มาใช้ และยังได้นำโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) มาใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ โปรแกรมระบบสมาชิกและหุ้น ระบบเงินให้กู้ ระบบเงินรับฝาก ระบบสินค้า ระบบบัญชีแยกประเภท ซึ่งช่วยให้การบริหารจัดการงานสหกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความแม่นยำ โปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิก นอกจากนี้สหกรณ์ยังได้นำนวัตกรรม Smart4M ไปใช้ในการบริหารงานสหกรณ์ ซึ่งจะช่วยให้คณะกรรมการทราบผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของสหกรณ์ในแต่ละเดือน เพื่อจะนำข้อมูลไปใช้วางแผนเพื่อจะพัฒนางานของสหกรณ์ให้ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสมาชิกสหกรณ์ สามารถตรวจสอบฐานะทางการเงินของตนเองได้แบบ Real Time สร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลที่ดีให้สหกรณ์ ภายใต้การแนะนำจากผู้สอบบัญชีและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้สหกรณ์สามารถจัดทำบัญชีและรายงานทางการเงิน
ได้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และขอรับบริการสอบบัญชีได้อย่างรวดเร็ว และมีชั้นคุณภาพการควบคุมภายในอยู่ในระดับดีมาก
“จุดแข็งของสหกรณ์ที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ การบริหารจัดการทางบัญชีที่เป็นระบบซึ่งนอกจากการใช้เครื่องมือเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร (CFSAWS:ss) และโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (FAS) แล้ว คือการนำนวัตกรรม Application Smart4M มาช่วยในการบริหารงาน ได้แก่ SmartManage สำหรับคณะกรรมการสหกรณ์ในการตรวจสอบการดำเนินงานของสหกรณ์ประจำวันอย่างรวดเร็ว จากทุกที่ ทุกเวลา และกำกับสหกรณ์ได้อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ
ลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการพัฒนาสหกรณ์ SmartMember ระบบสอบถามข้อมูลสมาชิกสหกรณ์ สำหรับตรวจสอบฐานะทางการเงินของตนเองได้ตลอดเวลา สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลสหกรณ์ SmartMe แอปพลิเคชันสำหรับเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ใช้บันทึกบัญชีครัวเรือน (รายรับ – รายจ่าย) และบัญชีต้นทุนอาชีพ (รายได้ และ ต้นทุน/ค่าใช้จ่าย) เพื่อการวางแผนการใช้จ่ายและการประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ SmartMonitor สำหรับผู้สอบบัญชีและผู้กำกับดูแลติดตามความเคลื่อนไหว และความผิดปกติทางการเงินของสหกรณ์ได้แบบวันต่อวัน เพื่อนำมาวิเคราะห์และตรวจสอบสหกรณ์ได้ก่อนที่จะเกิดปัญหา ซึ่งจากการใช้นวัตกรรมของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ส่งผลให้ณ วันสิ้นปีทางบัญชี สหกรณ์มีรายได้รวม จำนวน 232,971,651.07 บาท มีค่าใช้จ่ายรวม 229,555,109.89 บาท มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,416541.18 บาท กำไรต่อสมาชิก จำนวน 39,727.22 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และมีสัดส่วนปริมาณเงินออมเฉลี่ยต่อสมาชิก จำนวน 239,535.10 บาท ซึ่งนับว่านวัตกรรมที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สามารถช่วยพัฒนาการบริหารจัดการสหกรณ์ได้อย่างเข้มแข็ง ถูกต้อง แม่นยำและมีความโปร่งใส ช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติงานให้กับสหกรณ์และผู้สอบบัญชีได้เป็นอย่างดี” ประธานสหกรณ์โคนมกุยบุรี จำกัด กล่าว.
——————————————————–