“ซีพีเอฟ”  มุ่งมั่นผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียน 100 %  หนุนผลิตอาหารยั่งยืน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)หรือ ซีพีเอฟ   มุ่งมั่นผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียน  100 % หนุนกระบวนการผลิตอาหารยั่งยืนตลอดห่วงโซ่  ก้าวสู่เป้าหมายองค์กรลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) รุกติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ประกอบการธุรกิจอาหารสัตว์   ธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูป ธุรกิจอาหาร  ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV)และโครงการฟาร์มต้นแบบ RE 100 ผลิตพลังงานทดแทนใช้ภายใน โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากภายนอก  ควบคู่ดำเนินโครงการต้นแบบเปลี่ยนของเสียเป็นพลังงานทดแทนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)  

นายพีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง ซีพีเอฟ  เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ในปี  2050  (พ.ศ. 2593) โดยมาตรการหลักเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คือ   เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) จากในปี 2022  ซึ่งซีพีเอฟใช้พลังงานหมุนเวียน 30 % ของการใช้พลังงานทั้งหมดของบริษัท  ประกอบด้วย  พลังงานชีวมวล 69 % พลังงานก๊าซชีวภาพ 29% และพลังงานแสงอาทิตย์ 2% โดยมีความมุ่งมั่นผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มเป็น 50 %  ในปี  2030 (พ.ศ.2573) และเป็น 100%  ในปี 2050  (พ.ศ. 2593)  

               “ซีพีเอฟ ตระหนักถึงความสำคัญของการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานชีวมวล   พลังงานก๊าซชีวภาพ  และพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนกระบวนการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน และเรายังเป็นบริษัทลำดับต้นๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนสูงที่สุด” นายพีรพงศ์ กล่าว  

               ปัจจุบัน สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนของซีพีเอฟส่วนใหญ่มาจากพลังงานชีวมวล  อาทิ  การใช้เศษไม้สับเป็นเชื้อเพลิงในโรงงานผลิตอาหารสัตว์บกของซีพีเอฟทั้ง 13 แห่ง เพื่อทดแทนการใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน  จากการที่ซีพีเอฟได้ประกาศนโยบาย CPF Coal Free 2022 ยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100 % สำหรับกิจการในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา  รวมทั้งกิจการในต่างประเทศที่เวียดนาม ที่มีการยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100 % แล้วเช่นกัน  โดยในปี 2022 (พ.ศ. 2565)  พลังงานชีวมวลสามารถทดแทนการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้  180,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า      

               ในด้านของการใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพ   บริษัทฯ ดำเนินโครงการต้นแบบการเปลี่ยนของเสียเป็นพลังงานทดแทน โดยติดตั้งระบบย่อยสลายกากตะกอนของเสียจากระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อผลิตไบโอแก๊สสำหรับผลิตไฟฟ้า  และกากที่ย่อยสลายแล้วกลายเป็นปุ๋ย  ช่วยประหยัดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  สอดคล้องตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ภายใต้แนวทาง BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งปัจจุบัน มีการใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพในฟาร์มสุกรของซีพีเอฟ 98 แห่งทั่วประเทศ   และคอมเพล็กซ์ไก่ไข่  7 แห่ง   สามารถเปลี่ยนของเสียเป็นไบโอแก๊สที่ใช้ทดแทนการซื้อไฟฟ้าจากภายนอกได้กว่า  69 ล้านหน่วย  ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 440,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า  และในปัจจุบัน ซีพีเอฟ อยู่ระหว่างดำเนินโครงการฟาร์มต้นแบบ RE 100 หรือ Renewable Energy 100% คือ สามารถผลิตพลังงานทดแทนใช้ภายใน โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากภายนอก              

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ  รุกเพิ่มสัดส่วนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานจากแสงอาทิตย์ในพื้นที่การประกอบธุรกิจอาหารสัตว์  ธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูป  และธุรกิจอาหาร โดยเป็นข้อตกลงการซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ากับภาคเอกชนในรูปแบบ Power Purchase Agreement (PPA) มีเป้าหมายภายในปี 2025 (พ.ศ 2568 )  ติดตั้งโซลาร์เซลล์ในฟาร์มและโรงงานของซีพีเอฟรวมทั้งสิ้นกว่า  208  แห่ง กำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมประมาณ 100  เมกะวัตต์   และในปีนี้ ซีพีเอฟฯ มีโครงการทดลองนำรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดกลาง EV มาใช้รองรับการขนส่งในฟาร์มและโรงงาน เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก  

                                                  —————————————

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *