“วราวุธ” ประธานมอบรางวัล “โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2564

“วราวุธ” ประธานมอบรางวัลชนะเลิศ “ป่าชุมชนบ้านวังโหรา” จ.สุพรรณบุรี คว้าสุดยอดป่าชุมชนตัวอย่างระดับประเทศ โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2564 ความร่วมมือระหว่างกรมป่าไม้ และราช กรุ๊ป

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธาน ในงานมอบรางวัลป่าชุมชนตัวอย่างระดับประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมป่าไม้ และบริษัท  ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกันคัดเลือกป่าชุมชนตัวอย่างภายใต้ โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ประจำปี 2564 โดยป่าชุมชนบ้านวังโหรา จังหวัดสุพรรณบุรี คว้ารางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะที่ป่าชุมชนบ้านโนนทองอินทร์ (ป่าดงกกผึ้ง) จังหวัดอุดรธานี ได้รับรางวัลชนะเลิศ ดีเด่นด้าน “ป่าชุมชนลดสภาวะโลกร้อน และให้ประโยชน์อย่างยั่งยืน”

            นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ภารกิจของกรมป่าไม้คือการป้องกันรักษาผืนป่าไปพร้อมกับการดูแลแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน โดยการส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และป้องกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้คนและป่าสามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน และสามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สืบไป โดยเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจผ่าน 5 แนวทางสำคัญได้แก่ 1. ป้องกันรักษาป่าเดิม 2. เพิ่มพื้นที่ป่าใหม่ 3. ให้คนอยู่กับป่า จัดที่ดินให้ชุมชนได้ทำกินอย่างถูกกฎหมาย 4. ส่งเสริมไม้มีค่า แจกจ่ายกล้าไม้มีค่าทางเศรษฐกิจให้ชุมชนไปปลูกในที่ดินของตนเอง เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองในอนาคตและใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้ยืมเงินได้ และ 5. พัฒนาป่าชุมชน ส่งเสริมให้ชุมชนที่อาศัยรอบพื้นที่ป่าเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าในท้องถิ่นของตนเอง ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลในการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

          “พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้การขยายป่าชุมชนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีความคล่องตัวในการจัดการป่าชุมชน คณะกรรมการป่าชุมชนสามารถดูแลป่าชุมชนได้โดยมีกฎหมายรองรับสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐและประชาชนในการดูแลรักษาและจัดการป่าชุมชน เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน การประกวดป่าชุมชนที่ กรมป่าไม้ ร่วมกับ ราช กรุ๊ป จัดขึ้นนี้ ก็เป็นแรงสนับสนุนในการขับเคลื่อนและพัฒนาป่าชุมชนที่มีระบบการจัดการที่ดี เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน สังคม และประเทศ รางวัลที่ชุมชนได้รับได้ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้กับชุมชนในการดูแลรักษาป่าไม้ จนยกระดับเป็นป่าชุมชนต้นแบบที่มีชุมชนร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการป้องกันรักษา ฟื้นฟู ดูแลป่า รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากป่าแบบพอเพียงและยั่งยืน โครงการนี้เป็นความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่เข้มแข็งและดำเนินงานเกิด
ผลความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม” นายสุรชัย กล่าว

          นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการจัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและประชาคมโลกในการบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน โดยแนวทางหนึ่งคือการเพิ่มแหล่งกักเก็บทางธรรมชาติ ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าให้เป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยดำเนินงานภายใต้ โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับกรมป่าไม้มาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน โครงการนี้ฯ มุ่งสนับสนุนส่งเสริมด้านป่าชุมชน เพราะเป็นกลไกการดูแลรักษาป่าที่ทรงพลังและมีประสิทธิผลในการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพให้ยั่งยืนได้

          “ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ 14 ปี มีป่าชุมชนที่ได้รับรางวัลรวม 1,974 รางวัล คิดเป็นพื้นที่ป่าไม้ 1,276,389 ไร่ บริษัทฯ มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชน ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการรักษาป่าไม้ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและน้ำ รวมทั้งประโยชน์ในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก บริษัทฯ พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนขยายผลโครงการฯ ไปสู่การพัฒนาคาร์บอนเครดิตจากภาคป่าไม้ และร่วมสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ต่อไป” นางสาวชูศรี กล่าว

          สำหรับการประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง ในโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2564 มีป่าชุมชนได้รับรางวัล 146 แห่ง มีพื้นที่ป่ารวม 124,114.75 ไร่ มีความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนได้ 781,922.98 ตันคาร์บอน  (ค่าเฉลี่ยอัตราการกักเก็บคาร์บอนของป่าไม้ประมาณ 6.3 ตัน/ไร่)

          ป่าชุมชนบ้านวังโหรา จ.สุพรรณบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลดีเด่นเฉพาะด้าน “ป่าชุมชนลดสภาวะโลกร้อน และให้ประโยชน์อย่างยั่งยืน” เป็นของป่าชุมชนบ้านโนนทองอินทร์ (ป่าดงกกผึ้ง) จ.อุดรธานี

                                                     —————————————–

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *